เรียนธรรม ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม ก็เพื่อให้ รู้เท่าทัน > กิเลส อกุศลต่างๆ

เรียนธรรม ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม
ก็เพื่อให้ รู้เท่าทัน > กิเลส อกุศลต่างๆ
ไม่ใช่จะให้ละให้หมด หยุดและเลิกให้หมด …
มันเป็นไปไม่ได้หรอก
กิเลสคน สะสมมาตั้งแต่เกิด
จนป่านนี้ หนายิ่งกว่ากำแพงตึก ซ้อนๆกันอยู่ หลายร้อยชั้น
จะเอาปัญญาที่ไหนไปละ ไปพังทลายมันลงได้
บางคน >>>
เรียน ปฏิบัติ ศึกษา ธรรม แต่ กำแพงกิเลสกับหนาขึ้น >>> ก็มี
นั่นก็คือ หลงทาง ไม่ถูกทาง
ไม่รู้ ไม่เข้าใจหลักธรรม หรือหัวใจของธรรมะ

ธรรมะ ของพุทธะ สรุปออกมา เป็นคำ แค่ ประโยคเดียว คือ
” ไม่มีอะไรให้ยึดมั่นถือมั่น “
ความหมายก็คือ
กิเลส อกุศล ที่มนุษย์ยึดมั่นสะสมไว้ จนเป็นกำแพงหนาๆ
สร้างแต่ ความทุกข์ มาให้

เรียนธรรม ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม
ก็เพื่อให้ รู้เท่าทัน > กิเลส อกุศลต่างๆ
รู้ว่า นี่คือ กุศล นี่คือ อกุศล
รู้ว่า นี่คือ ความสุข ความดี ความสบายใจ
นี่คือ ความทุกข์ ความชั่ว ความขัดข้องหมองใจ
รู้ว่า การมองผลของการกระทำ ต้องมองเข้าไปตามความเป็นจริง
มองให้รู้ ให้เห็นว่า ทำไปแล้ว จะสุข หรือ ทุกข์ กันแน่
ถ้าสุข เพราะสนองราคะ ตัณหาได้ แต่ มีทุกข์ตามมาไหม ทุกข์นั้นคืออะไร
เป็นอย่างไร ( มองตามความเป็นจริง จึงจะรู้เห็น )

เพราะฉะนั้น
เรียนธรรม ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม
ก็เพื่อให้รู้เท่าทันความคิด
ก่อนที่จะนำไปก่อกำเนิดกรรม ทั้ง วจีกรรม กายกรรม และมโนกรรม
เพราะ การรู้ทัน
ไม่ว่าจะรู้ทันกุศล หรือ อกุศล ย่อมเป็น กุศล แน่นอน
รู้ทัน กิเลส ราคะ ตัณหา เมื่อนึกคิดแล้ว รู้ว่า กำลังนึกคิดเรื่องที่เป็น กิเลส
ราคะ ตัณหา ก็เป็นกุศลแล้ว
เมื่อรู้ เมื่อเห็น ตั้งแต่ในจิต
มันจะประเมินความถูก ผิด ในจิต
เมื่อจิต รู้ว่า ผิด ไม่ว่าจะจาก สัญญาจำได้หมายรู้ หรือ ปัญญา
มันไปดับ กิเลส อกุศลต่างๆในความคิด นั้นลงได้
เมื่อดับ มันก็ไม่เกิดเป็นรูปธรรม ทาง กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
นี่แหละ
แค่นี้แหละ
เหตุผลที่เราต้องเรียน ต้องปฏิบัติ ต้องศึกษาธรรม
เรียน เพื่อให้รู้ ให้เห็น
รู้เท่าทัน กิเลสต่างๆ
แค่รู้ กำแพงที่หนาๆ มันจะเริ่มผุกร่อนทำลายตัวลงไปเองเรื่อยๆ
เพราะ กิเลส มันพ่ายแพ้ การรู้ทัน
มันกลัว การรู้เห็น ความเป็นจริง
มันก่อตัวขึ้นไม่ได้ ถ้า มีจิตรู้นี้ คอยดับมันอยู่ตลอดเวลา

กิเลส อกุศล ราคะ ตัณหา >>> ดับลงได้ ที่ความคิด
เมื่อดับต้นเหตุ
กลางเหตุ และปลายเหตุ ย่อมไม่มี
>>>
ท่านมองเห็น ชัดขึ้นแล้วใช่ไหม
ถ้าเห็นแล้ว … นั่นแหละ ” กุศล “

ส่งการบ้านเทวดาพี่ใหญ่
4 ตุลาคม 2564
ขออานิสงส์แห่งการให้ธรรมทานในครั้งนี้
ถึงแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เถิด