” สอนเทวดา “

ส่งการบ้านเทวดา

30 กรกฏาคม 2565

” ฝากเทวดาพี่ใหญ่ สอนเทวดาน้องๆ 

เพราะสอนคนไม่รู้เรื่อง ยกเว้น คนที่มีจิตเป็นเทวดาแล้ว ก็จะพออ่านเข้าใจ

แต่ยาก 

มันยากเพราะ คนมีบันทึกเดิมไว้มาก ” สัญญาขันธ์ ” 

ความรู้ ที่ผิด มากกว่า ถูก ของคน ทำให้เข้าไม่ถึงซักกะที

>>>>>

ทุกคนล้วนมีปมและปัญหา

ให้อ่านคำสอน ปลดความนึกคิด จิต อารมณ์ เวทนาต่างๆ  ล้วนทำได้เป็นขณะๆ  หมายความว่าชั่วคราว เท่านั้น

วิบากกรรมทั้งดีและชั่ว  เป็นกฎที่ตั้งไว้ในโลกธาตุนี้ 

สำหรับดูแลสรรพสัตว์ ต่างชนิด ต่างเผ่าพันธุ์ ต่างการเวียนว่ายตายเกิด  

ที่เราผู้ศึกษาเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด  ก็ล้วนเป็น ดวงจิตวิญญาณ ชนิดเดียวกัน เพียงแต่  อาศัยอยู่ในรูปกายสังขาร ( กายหยาบที่ต่างกันเท่านั้น)  

กลไกของกาย  ที่เป็นเครื่องอาศัยให้เรียนรู้  จึงทำงานได้ต่างกัน

แต่มิได้หมายว่า  สรรพสัตว์ชนิดอื่น  ที่ไม่ใช่กายสังขารมนุษย์  

จะศึกษา  และเปลี่ยน ภูมิจิต ภูมิธรรมของตนไม่ได้

เพราะแท้แล้ว  หมู่สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนใช้จิตในการเปลี่ยนภพภูมิ

ผู้มีปัญญามาก  อ่านเรียนมากกว่า  

แต่มิอาจหมายความได้ว่า ฉลาดกว่า 

สรรพสัตว์ผู้ยังเข้าไม่ถึง แต่ เหตุด้วย จิตวิญญาณ ของสรรพสัตว์อื่นๆทำกรรมมามาก  วิบากกรรมจึงขวาง  และ หรือ มิใฝ่รู้  ส่วนใหญ่ชอบตาม ชอบง่ายๆ ชอบสบายๆ

” กำลังใจมีไม่พอ ” (อ้างคำสอนของหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง)

มันจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะมีหลายวิธี เพื่อช่วยสรรพสัตว์  

ซึ่งดวงจิตที่รู้น้อย  รู้ไม่ถึง จึงทำให้ > ปรามาส  พระครู พระสงฆ์ แห่งองค์สมเด็จสัมมาฯ  มากมาย ( เหตุเพราะรู้ไม่ถึง )  

อดีตชาติ ก็ด่าก็ปรามาส ที่บันทึกไว้

ปัจจุบัน ก็ปรามาสอีก บันทึกใหม่ นี่แหละมิจบสิ้น

พระโพธิสัตว์หลายๆพระองค์ พระอรหันต์ อื่น ฯลฯ  จึงเลี่ยงโปรดสรรพสัตว์  

ที่ติดอยู่ในบ่วงกรรม  เพราะ

ถ้าดื้อกระทำไปแล้ว วิบากนั่นย่อมกลับมาขวาง

>>>

ทุกสรรพจิตวิญญาณ ล้วนมีจุดมุ่งหมายปลายทาง เป็นที่ไป 

ซึ่งแต่ละดวงจิต มีองค์ประกอบที่ล้วนต่างกัน 

แต่หากเราพึ่งเริ่มจัดวาง เราก็จำเป็นต้องลดกิจบางกิจ ที่ตั้งใจมาในอดีต 

เพื่อสร้างอีกกิจ  เมื่อเราแกร่งดีแล้ว อินทรีย์พร้อม  ตบะเดช  คือชำนาญ มั่นคง  

เราจึงค่อยย้อนมาทำกิจ  ที่ตั้งใจไว้อีก

มิได้หมายว่า ละทิ้งสรรพสัตว์ มิพาสรรพสัตว์เค้าถึง 

นี่คือการวางแผนอย่างชาญฉลาด

มิได้หมายความว่าละทิ้ง ความตั้งใจ หรือ มีกำลังหรือบารมี ไม่พอ

เราต้องฉลาดในการดำเนินไป ด้วยใจที่มุ่งมั่น   

อย่าลืมเรามิใช่นักบวช ที่กินฟรีอยู่ฟรี

แต่เราอาจรู้มากกว่า  เพราะบุญวาสนาเก่าที่มี กับครูบาอาจารย์ 

และเราเวียนว่าย  ศึกษาธรรมะ หรือการเวียนว่ายตายเกิดมามากกว่า และกรามขวางน้อยกว่า

>>>

อันคำพระสอน

ใครด่าเรา  กาย วาจา ใจ ที่แสดงออก  ของบุคคลนั้น  การกระทำก็เป็นของเขา  

มิใช่ของเรา

วิธี >>> ให้สักแต่ได้  ได้ดู อย่าแปลคำ  สักแต่เห็นอย่าแปลความหมาย ฯลฯ  

ให้บันทึกแบบนี้เข้าไปใหม่

หรือที่พระสอน สักแต่ว่านั่นแหละ

กรรมย่อมอยู่กับผู้กระทำนั้น มิอาจเชื่อมต่อมาที่เรา และเราไม่บันทึกพลังงานไม่ดี

>>>

ฝึกนะท่าน (ปิดทวาร) ก็คือ สักแต่ว่า ดู สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าเห็น

ไม่แปล ไม่เข้าใจความหมาย

ณ ขณะนั้น เราใช้สภาวะ ฉันเป็นเช่นอวกาศ ทั้งภายใน และภายนอก  

ร่างกายเราจะได้คำตอบ ว่า

บางคนปากด่า แต่เมื่อดูชีวิตพวกเขาแล้ว น่าสงสารมาก  

พวกเขาล้วนหาทางออก  เมื่อเราไปรู้ ด้วยธรรมญาณ ที่เราต้องสังเกต กลไก  

เพื่อเปิด ให้ธรรมญาณออกมาทำงานได้บ่อย เราจะรู้เเลยว่า 

( ทุกข์  สมุทัย นิโรธ มรรค ) วิธีการนำพาบุคคลผู้นั้น คือต้องพูดแบบไหน 

อย่างไร ( เรื่องนี้ เฉพาะตน )

เมตตา  มหาเมตตา มันเกิดขึ้น เพราะเราไปเห็น และเข้าใจ เหตุของความเป็นไปของสรรพสัตว์  มิใช่เกิดจากเราใช้ใจสั่งจิตให้เมตตา  หรือบังคับตัวเราให้เมตตาให้มากๆ  อย่างไร้เหตุผล

ความโกรธเช่นเดียวกัน มันมีเหตุนะ  มันถึงไม่ดับสนิท  เรียนดีๆ

แม้จริงแล้ว กาย เวทนา จิต ธรรม  ทุกสภาพของเวทนา  เราต้องปล่อยให้มันเกิดขึ้น  เพื่อให้จิตรู้เหตุ นี่คือการเรียนรู้

อย่ากดข่ม

อย่าเบี่ยงความรู้สึก นึกคิดอารมณ์  หรือที่คนชอบสอนว่า ให้คิดบวก เพราะ

เหมือนเราบันทึก  วิชาหลอกตัวเอง  กายภายนอกตั้งท่าสงบนิ่ง  ข้างในพลุกพล่าน  คนส่วนใหญ่กระทำแบบนั้น  เพราะโดนสอนมา

เราก็บันทึกอีก ก็ถูกอยู่เราจำเป็น  เพราะอยู่ในสังคม  ทุกคนเป็นหมด

โอ้…ใจมันไม่อะไรเลย และเข้าใจทุกสิ่งอย่าง  

การแสดงออก ทาง กาย วาจา ใจ ที่พวกเขาเป็น 

ถึงเข้าวัดมาก ทำบุญมาก ฟังธรรม สวดมนต์  ช่วยอะไรพวกเค้าไม่ได้เลย

กี่ปีกี่ปี ก็เจอปัญหาเดิม  สอนแล้วก็ตื่นแป๊บเดียว  

ทุกอย่างมันรุ่มร้อนอยู่ภายในใจ

บางคน หรือหลายๆคน  จึงมีลักษณะ  รู้ธรรมะมาก  ฟังมาก อ่านมาก  

แต้ชีวิตแก้ไขอะไรไม่ได้เลย

เรื่องใหญ่ที่สุดคือ

วงจรของพวกเค้า  คนรอบข้าง ที่เคยสร้างเวร สร้างกรรมกันมา  

มันมากระตุ้น กระตุก  อีโก้ ซุปเปอร์อีโก้

แต่ถ้าเรารู้ทัน  และเลือกที่จะดินทางใหม่  บันทึกใหม่  คือไม่อยากเจอคน และเหตุการณ์เล่านี้อีกแล้ว  เราต้องหยุดบันทึก คือ

เลิกคบ เลิกคุย  เราต้องเลือกคน เพราะนั่นคือการวางแผน และบันทึกใหม่  

เพราะเราคือผู้ฉลาดแล้ว ที่จะเลือกสร้างดวงชะตาของเราเอง