” ประสบการณ์ของจิต “

ส่งการบ้านเทวดา 26 กันยายน 2564

คืนนี้ เขียนเรื่อง ส่งให้เทวดาพี่ใหญ่ ด้วยเรื่อง ประสบการณ์ของจิต
และ แบ่งปันสู่ เพื่อนมนุษย์ เป็น นิทานยามหลับ ก็แล้วกันนะ

ผมเรียกท่านเวสฯ ว่า พี่ใหญ่ หนึ่งในเทวดา ที่จะมาฟังสวดมนต์ ทุกๆเช้า
ท่านพี่ใหญ่ฯ ช่วยนำทางผมหลายๆเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การสวดมนต์
การเข้าใจ และเข้าถึง พุทธมนต์ … ไปจนถึง
หลักการภาวนา ในแบบ ภาวนามยปัญญา
ซึ่งเป็นความรู้เกี่ยวกับการสัมผัสทางด้านจิตวิญญาณ
เป็นการฝึกสติ ฝึกการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกขณะปฏิบัติสมาธิภาวนา
อันจะนำไปสู่ความรู้แจ้งเห็นจริงในทางพระพุทธศาสนา
เป็นความรู้และประสบการณ์ ที่อยู่คนละมิติกับ ความรู้ที่เป็น
สุตมยปัญญา ซึ่ง เป็นความรู้จากการฟัง การอ่าน
และ จินตามยปัญญา เป็นความรู้จากการนึก การคิด การค้นคว้าวิจัยต่างๆ

รวมถึง ท่านพี่ใหญ่ ท่านอื่นๆด้วย
ด้วย เมื่อคืน
ภาวนาพระคาถา และ เชื่อมจิตกับ หลวงปู่ทวด
( ทำมา 2 ค่ำคืนแล้ว )
คืนแรก ได้แต่บริกรรม มนต์
” นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติ ภะคะวา “
วางจิตตั้งมั่นที่ปลายจมูก
รู้ตัวทุกขณะ
ตั้งแต่ 5 ทุ่ม ถึงเช้า ( ฟ้าสว่าง )
สิ่งที่ได้ คือ จิต มีความ ” สงบ ”
และความรู้ คือ ” ปล่อยวางทุกอย่างลง “

คืนที่ 2 ทำเหมือนเดิม
แต่ เปลี่ยนเป็น
เริ่มจาก นั่งสมาธิ
นั่งไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาหนึ่ง ร่างกายบอกให้พัก
ก็เอนตัวลงนอน
แต่จิต ยังบริกรรมต่อเนื่อง ไปจนเช้า ( ฟ้าสว่าง )
ระหว่างนั้น หลับไปหรือไม่ ไม่ได้สนใจ
แต่รู้สึกตัวทุกครั้ง ก็ยังอยู่กับ บริกรรม

จับได้ว่า
มีช่วงเวลาหนึ่ง
มนต์ พาจิตไหลไป อยู่ที่แห่งหนึ่ง
คุ้นหู คุ้นตา … แต่ ไม่คุ้นเคย
ซักพัก
” นะโม โพธิสัตโต … ” ก็เปลี่ยนเป็น
” อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ “
ใจรู้ทัน ก็ดักทันที
เรามาห้องพุทธคุณได้ยังไง ?

พอใจรู้ รู้แล้ว ดับแล้ว
แต่มนต์ยังดำเนินต่อไป
ใจรู้ดวงใหม่ มันไปรู้อีกเรื่อง
ห้องพุทธคุณ ถูกจัดวางใหม่ เป็น 56 คำ 56 ห้อง
แต่ด้วยความที่ ยังไม่คุ้นเคย
ฉันได้แต่นับนิ้วตามห้อง เรียงกันลงไป 8 ห้อง
ท่องลงมาเหมือนหนังสือจีน ( ไม่ใช่ซ้าย ไป ขวา )
ไล่ลงไป 1-8
แล้วขึ้นไปเริ่มแถว 2 ไล่ลงมาอีก 8 ห้อง
อย่างนี้ไปเรื่อยๆ … จนครบ 7 แถว
แต่ละแถว มี 8 คำ 8 ห้อง เท่ากัน

ได้ พุทธมหามนต์ ใหม่
เรียงจากซ้ายไปขวา 8 บท
เรียกว่า อิติปิโส 8 ทิศ
>>>
ตอนนั้น จิต บอกว่า
นี่คือ พุทธมหามนต์ ที่เป็นมหาเวทย์ เลยนะ
เข้าถึงให้ได้นะ
>>>
8 แถว 8 ทิศ
จะปัด ปกป้องภัยต่างๆ รอบตัว เรียกว่า ” เกราะเพชร “

จันทร์ ถึง อาทิตย์ ไม่มีวันใด ที่ไม่มีพุทธคุณคุ้มหัว
ทิศบูรพา – วันจันทร์ … อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา
ทิศอาคเนย์ – วันอังคาร … ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง
ทิศทักษิณ – วันพุธ( กลางวัน ) … ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท
ทิศหรดี – วันเสาร์ … โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ
ทิศประจิม – วันพฤหัส … ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ
ทิศพายัพ – วันราหู( พุธกลางคืน ) … คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ
ทิศอุดร – วันศุกร์ … วา โธ โน อะ มะ มะ วา
และ ทิศอีสาน – วันอาทิตย์ … อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ
>>>
ตื่นมา รีบค้นคว้า
แล้วเขียนออกมา ให้เห็นจริง ไปตามนั้นได้
ศึกษาในแบบ วิทยาศาสตร์ คือ ทุกอย่างต้องทำได้จริง ถ้าทำไม่ได้ถือว่าหลอกลวง

คาระวะ ท่านพี่ใหญ่ ที่พาจิต ไปพบ
สิ่งที่ทรงคุณค่าล้ำเลิศ เป็นมหาวิเศษ มหามนต์ สารพัดจะใช้
เสกตัวเอง เสกลงวัตถุ
สารพัดจะใช้ได้ทุกประการ แคล้วคลาดคงทนต่ออาวุธประเสริฐนัก
ใช้เป็น เมตตามหานิยม ก็ได้
แต่
ต้องวางอุเบกขา เป็น ข้อใหญ่ไว้
เพราะ เมื่อวันหนึ่ง พร้อมจะเดินตามรอยพระอรหันต์ ก็จะวางสิ่งเหล่านี้ มุ่งตรงสู่พระนิพพาน

จำเอาไว้ว่า
ไม่ว่าจะเป็น พระเครื่อง ยันต์ต่างๆ มีคุณทั้งนั้น …
แต่ต้องบูชาด้วยศีล
ลำพังคนสวด คนไม่ห้อยพระ ห้อยยันต์ แต่มีศีล
ขลังกว่าห้อยพระ สักยันต์ เสียอีกนะครับ
เขาปลุกเสกตัวเองได้ด้วย บุญกิริยาวัตถุ 3
ทาน ศีล ภาวนา
อันนี้ของจริงครับ … ท่านพี่ใหญ่