ไม่ได้ส่งการบ้านเทวดา มาหลายวัน
อาจะเป็นเพราะ เราเหมือนอยู่ใกล้ๆกันทุกวันๆ เหมือนได้คุยกันแทบทุกวัน
ทั้งในเวลาสวดมนต์ และเวลานั่งสมาธิ
มีเรื่องหนึ่ง
มีมันเกิดขึ้นในใจมานาน เป็นปีๆแล้ว
แต่ไม่เคยเอามาพูดคุย พิจารณากันในสมาธิเลย
ก็เลยถือโอกาส … เขียนเป็นการบ้าน บันทึกส่งท่าน อีกฉบับ
เอาไว้ไปอ่านทบทวน กับท่านอีกหลายๆรอบ
เรื่องที่จะเขียนนี้ คือ
” ความเบื่อหน่าย ในอัตตา ตัวตน “
…
ส่งการบ้านเทวดา 8 พฤศจิกายน 2564
…
ใช้ชีวิตมา 50 กว่าปีแล้ว
ผ่านอะไรมามาก ทั้งดี และ ไม่ดี
ดี ก็คิดไปเองว่า ดี ( ดี กับตัวเอง อาจไม่ดี กับคนอื่นก็ได้ )
ส่วน ไม่ดี แน่นอน มันต้องไม่ดีกับตัวเอง จึงจะมองว่า เรื่องนั้น ไม่ดี
คนเรา ก็จะแสวงหา ดี ให้ตัวกันทั้งนั้น
แต่
การแสวงหา ดี ทางโลก ช่างแตกต่างจากทาง ธรรม มากมายเหลือเกิน
50 ปี ที่เห็น การหา ” ดี ” ของตัวเอง และของคนอื่นๆ
ที่เต็มไปด้วย การสร้าง อัตตา ตัวตน ขึ้นมา
ผ่านมาถึงเวลานี้ มันช่างหนักอึ้ง ไม่รู้เป็นภูเขากี่ลูก ทับถมอยู่
อัตตา ตัวตน ที่พยายามสร้างขึ้นมา ให้ > ดี
คือ
ให้คนอื่น มองว่า เรา ดี หรือแม้แต่ตัวเราเอง มองว่า > อย่างนี้ คือ ดี
ในแบบโลกๆ มันก็คือ สร้างภาพ ดีๆนี่เอง
ภาพที่ดี อาจแฝงอะไรในนั้นมากมาย
ภาพที่ว่าดี อาจเต็มไปด้วย ชั่ว โลภ โกรธ หลง ราคะ ตัณหา เต็มแน่นไปหมด
บางที มันหลุดรอดออกมาจากภาพนั้น ให้เห็น ให้รู้สึกได้เลย ก็มี
โลก เรียกว่า ” ไม่เนียน “
…
คน อวด ” ดี ” กันด้วย อัตตา ด้วยการสร้างภาพ ตัวตนขึ้นมา
เช่น
อยู่ห้องเช่า ถูกๆ ห้องก็สกปรก ไม่เคยเก็บกวาด ทำความสะอาด
แต่ ใส่สูท แต่งตัวดี ถ่ายรูปลงโชว์ กินอาหารร้านสวยๆ
เที่ยวและนำเสนอภาพ ด้านนั้น
เห็นใครส่วนใหญ่ ทำแบบไหน ก็จะทำตาม
แต่ไม่กล้าให้เห็นที่พัก ที่นอนจริงๆ ว่ามันเก่า เน่า เหม็น แค่ไหน
เพราะถ้าเห็น มันคือภาพที่ ” ไม่ดี ” แล้ว ( คิดกันอย่างนั้น )
พูดง่ายๆว่า สร้างอัตตา ตัวตน ที่ไม่ใช่ ตัวจริง
>>>
สร้างมาเพื่อ ทำให้คนชอบ คนเชื่อ คนมองดูว่า ” ดี “
ในแบบที่โลก มองกัน
>>>
อัตตา หรือ ตัวตน แบบนี้ มันหนัก หนักจริงๆ
กว่าจะรู้สึก และ หาสิ่งที่ถ่วงตัวเองจนเจอ ก็ปาไป 50 ปีแล้ว
เกินครึ่งทางของชีวิตไปแล้ว
ซึ่ง ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า นี่มันบั้นปลายชีวิตแล้วหรือยัง
จะตาย วันนี้ พรุ่งนี้ หรือเปล่า ก็ไม่อาจรู้ได้
แต่ ที่รู้คือ >>> ตายแน่
…
พอมันเริ่มเห็น ตัวถ่วง ถุงถ่วง ที่มันถ่วงทั้งตัว ทั้งใจอยู่
ยิ่งเห็นชัด มันก็เริ่มส่งกลิ่น ส่งภาพ ส่งเสียง > ไม่ดี < ออกมา
ไอ้ที่ว่า ดีๆ นั่น … จริงๆมัน ห่วยแท้ >>> คิดไปได้ โง่ชะมัด
โลกนี้ สอนแต่เรื่องห่วยๆ ให้คนทำตามๆกัน
ทำไม ต้องแต่งตัวดีๆ ราคาแพงๆ เพื่อออกไป หาเงิน
หาค่าเช่าห้อง ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าผ่อนมือถือ ผ่านรถมือสอง ผ่านอะไรต่างๆนาๆ
จากตัณหา ที่มีแต่เพิ่ม ไม่รู้จบสิ้น
ก็เพราะ มันใส่เสื้อเก่าๆ ขาดๆ ไปหาเงินไม่ได้ คนเขาไม่ให้ ไม่เอา
เขาเชื่อคนใส่สูท หรือใส่เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับราคาแพงๆ
>>>
อัตตา ตัวตน ที่หนักอึ้ง
>>>
ขอสารภาพ กับท่านเทวดาพี่ใหญ่ ว่า
เรา มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
แต่พอตามันเปิด หูมันเปิด ใจเปิด มันเห็นถุงเน่าๆ ห้อยหนักอยู่เต็มตัว
บอกตรงๆนะท่าน มันช่างทุเรศตัวเองเสียเหลือเกิน
โง่ชะมัดจริงๆ ทำไมทำไปได้นะ
…
พอมันเห็นบ่อยๆเข้า ทุกวันๆ
มันเริ่มเบื่อ และ หน่ายสุดๆ
จากนั้น มันก็เริ่ม ปลดออก ทีละถุง 2 ถุง
ปลดออกไปเรื่อยๆ
มีถุงใหม่เข้ามาห้อยเพิ่มบ้าง ก็มีนะ ถุงเล็กลง แต่มันก็ยังมี
มีมา ก็ปลดออกไปเรื่อยๆ
ตัวมันก็เริ่มเบาขึ้น
พออัตตา ตัวตน มันเริ่มน้อยลงไปมาก
บทบาทที่ต้องแสดง มันก็ไม่มี
>>> หน้าที่จริงๆ มันก็เริ่มออกมา
…
โถ ท่านพี่
กว่าจะเห็นหน้าที่ตัวเอง จริงๆ ก็ จะหมดชีวิตอยู่แล้ว
แต่ก็เอาเถอะ
ยังมีบุญได้เห็น ได้ทำ และได้มาสารภาพกับท่าน
…
ไม่อยากเขียนบรรยายเยอะ
ไอ้เรื่อง ภาพอัตตา หนักๆ เน่าๆ นี่ มันมีมากมายในสังคม
เขียนไปมาก ก็กระทบมาก
เพราะมีให้เห็นทุกวัน จะชนกันตายอยู่แล้ว
ก็ช่างมัน เรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา
ไม่ต้องเอากระจกไปส่องคนอื่น แต่ให้ส่องตัวเอง ดูตัวเองให้ครบ ถี่ถ้วน
ทำแค่นี้ เพราะ หน้าที่ มีแค่นี้จริงๆ
>>>
ถุงถ่วงเน่าๆ มันน้อยลงไปทุกวัน
กลิ่นก็เริ่มหาย กายใจก็เริ่มเบา
เอาไว้ วันไหนตัวลอยได้แล้ว จะมาเขียนบรรยายเพิ่มนะท่าน
.
.
ขณะเขียน มีเสียงถกเถียงเข้ามาในใจ
” ไม่ให้แต่งตัวดีๆ ไปทำงาน จะให้ใส่ขาดๆไปหรืออย่างไร มองตามความเป็นจริงบ้างสิ ? “
ก็ใช่
แต่ถ้ามองไปตามความเป็นจริง ก็คือ
เป็นแบบไหน ก็ทำให้มันพอดี แบบนั้น
การสร้างอัตตา ตัวตน เพื่อเป็นการสร้างภาพ สร้างความเชื่อ ความศรัทธา
ต้องเป็นจริงเช่นเดียวกัน
อย่ามัวแต่ทำเพื่อให้คนอื่นเห็น ในแบบที่ตนต้องการสร้าง อย่างเช่น
ไปหลอกขาย โดยอ้างความสำเร็จ ที่ตนสร้างภาพนั้นขึ้นมา
ซึ่งมันอาจไม่ใช่ความจริง แบบนั้น เป็นตัวตนปลอม
ก็ไม่ควรทำ
แต่งตัว แต่งกาย ไปตามกาลเทศะ จะดีกว่า
คำว่า ดูดี สมตัว ไม่ต้องไปแสวงหา ที่มันเกินตัว >>>
เพราะ เมื่อไหร่ที่มัน เกินตัว … มันจะ ทุกข์
และเมื่อ ทุกข์ ก็ต้องพยายามแสวงหา สุข ( ในแบบที่ตัณหาพาไปนั้น ) มาทดแทน
หนักกันเปล่าๆ
หนักไหมล่ะ ส่องกระจกดูสิ